เข้าใจขอบเขตของการจ้างทำเว็บ คนพัฒนาเว็บมีหน้าที่อะไรบ้าง

หากพูดถึงตัวช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจต่าง ๆ การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็คือสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตามการทำเว็บไซต์จำเป็นต้องใช้ความรู้เฉพาะทางขั้นสูง ดังนั้นการจ้างทำเว็บจึงเป็นทางออกสำหรับหลาย ๆ คนที่ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับขอบเขตของการจ้างทำเว็บรวมถึงข้อมูลน่ารู้อื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันเลย

ขอบเขตของการจ้างทำเว็บไซต์

ปัญหาอันดับหนึ่งที่ทำให้การจ้างทำเว็บไซต์กลายเป็นเรื่องยุ่งยากและมีปัญหาตามมาก็คือการที่ผู้จ้างและคนพัฒนาเว็บไซต์ไม่รู้ว่าขอบเขตการจ้างทำเว็บไซต์คือตรงไหน ดังนั้นการปูพื้นฐานให้ทุกฝ่ายเข้าใจขอบเขตตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจเป็นอันดับแรก โดยปกติแล้วขอบเขตที่คนพัฒนาเว็บไซต์ต้องดูแลมีดังนี้

  1. เลือกและใช้เครื่องมือในการทำเว็บอย่างเหมาะสม
  2. ดูแล วางแผนและเข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ที่ได้รับมอบหมาย
  3. รู้จักการออกแบบ UX และ UI อย่างแจ่มแจ้ง
  4. รู้วิธีการตั้งค่าเว็บไซต์พื้นฐานเป็นอย่างดี
  5. พร้อมทำคู่มือการใช้งานและการดูแลเว็บไซต์อย่างละเอียด

สำหรับส่วนการจัดเตรียมข้อมูล รูปภาพหรือการทำการตลาดผ่านการทำ SEO ทั้งหมดนี้จะอยู่นอกเหนือขอบเขตในการทำงานของคนพัฒนาเว็บไซต์ทั้งสิ้น

4 หน้าที่ที่คนพัฒนาเว็บต้องรู้

เมื่อทำความเข้าใจขอบเขตการจ้างทำเว็บไซต์แล้ว เราก็มาเจาะลึกกันในส่วนของหน้าที่ที่คนพัฒนาเว็บต้องรู้กันบ้าง ข้อมูลในส่วนนี้สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นส่วนที่จะช่วยให้ผู้จ้างรู้ว่าหลักเกณฑ์ไหนบ้างที่ควรนำมาใช้ในการตรวจสอบงานแต่ละครั้ง ซึ่งเรารวบรวม 4 หน้าที่สำคัญของคนพัฒนาเว็บมาไว้ ดังนี้

1. รู้สโคปของเว็บไซต์ที่ทำการสร้าง

การรู้สโคปของเว็บไซต์ที่จะทำการสร้างคือหน้าที่อย่างแรกของคนพัฒนาเว็บไซต์ การสื่อสารกับผู้จ้างอย่างละเอียดเกี่ยวกับความต้องการและจุดประสงค์ของการสร้างเว็บไซต์จะช่วยทำให้ประเมินได้ว่าต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณทั้งหมดเท่าไหร่ นอกจากนี้การรู้ข้อมูลของธุรกิจนั้น ๆ อย่างละเอียดยังช่วยทำให้คนพัฒนาสามารถเลือกฟังก์ชันของเว็บไซต์รวมถึงมีการออกแบบ UX และ UI ได้แบบมืออาชีพอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างทำเว็บไซต์ คนพัฒนาจำเป็นที่จะต้องทำการตกลงเรื่องการลงข้อมูลและอัปเดตสินค้าชนิดต่าง ๆ อย่างละเอียด คำนึงไว้เสมอเลยว่าทุกหน้าเว็บไซต์ที่ถูกสร้างล้วนมีค่าใช้จ่าย หากเข้าใจภาพรวมทั้งหมดและสามารถไฟนอลส่วนนี้ได้ตั้งแต่แรกแต่แรกก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างเว็บไซต์ให้สมบูรณ์

2. วางโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)

เว็บไซต์ที่ดีจะต้องมีรากฐานที่แข็งแรง การวางโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) จึงสำคัญไม่แพ้สิ่งใด ข้อมูลทั้งหมดที่คนพัฒนาเว็บไซต์ได้รับมา จะถูกนำมาวางโครงสร้างก่อนเริ่มลงมือเขียนโค้ดสร้างเว็บจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นอย่างยิ่งในการทำเว็บไซต์เพราะช่วยให้มองเห็นภาพเว็บไซต์ได้แบบง่าย ๆ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้จ้างสามารถนำไปต่อยอดด้านการตลาด เช่น การทำ SEO ได้แบบเห็นผลมากขึ้นอีกด้วย

3. เลือกเครื่องมือและตรวจสอบให้เว็บไซต์ใช้งานได้ตลอดเวลา

ปัจจุบันมีหลากหลายเครื่องมือด้วยกันในการทำเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น Adobe Dreamweaver, WordPress, Wix หรือ MAGENTO เป็นต้น นอกจากเครื่องมือในการเขียนโค้ดแล้ว ในส่วนของการเลือกเว็บเซิร์ฟเวอร์หรือเว็บโฮสติ้งก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะคนพัฒนาเว็บไซต์มีหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดและการตั้งค่าพื้นฐานต่าง ๆ ในส่วนนี้เพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถออนไลน์ได้แบบไม่มีปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง

บทความที่เกี่ยวข้อง: อยากทําเว็บไซต์ฟรี ทำของที่ไหนดี? มาดู 14 เว็บสำเร็จรูปยอดฮิต

4. ตรวจเช็ก จัดเตรียมคู่มือการใช้งาน

หลายครั้งการว่าจ้างให้ทำเว็บไซต์ก็จบลงทันทีที่ส่งมอบเว็บไซต์เสร็จ ดังนั้นเมื่อพัฒนาเว็บไซต์เสร็จแล้ว คนพัฒนาจึงต้องตรวจเช็กความเรียบร้อยพร้อมจัดเตรียมคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดให้ผู้ว่าจ้างก็เป็นหน้าที่ที่ควรทำก่อนส่งมอบงาน เพื่อที่ผู้จ้างจะสามารถใช้งานและดูแลเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองต่อไปนั่นเอง

เว็บเซิร์ฟเวอร์ต่างกับเว็บโฮสติ้งอย่างไร?

การแสดงผลโค้ดต่าง ๆ ที่คนพัฒนาเว็บไซต์ทำขึ้นมาออกไปเป็นเว็บไซต์สำหรับให้คนภายนอกได้รับชมตลอด 24 ชั่วโมงจำเป็นที่จะต้องใช้เซิร์ฟเวอร์มาเป็นตัวกลางในการจัดฐานข้อมูลทั้งหมดพร้อมตั้งค่าเว็บไซต์เสียก่อน หากแต่การจัดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงทั้งด้านอุปกรณ์และทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นตัวกลางอย่างเว็บโฮสติ้งซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าจึงกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนปัจจุบันนิยมนำมาใช้งานกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ขั้นตอนการเลือกโฮสติ้งในการทำเว็บ

ขั้นตอนการเลือกโฮสติ้งสำหรับการทำเว็บมีทั้งหมด 3 ข้อคือ

  • ดูเซิร์ฟเวอร์ : ตรวจสอบสเปคของเซิร์ฟเวอร์เกี่ยวกับความเสียรและการประมวลผล เพื่อนำไปประเมินถึงความรวดเร็วที่จะได้รับในการใช้งาน
  • ยืนยันโลเคชั่น : คำนึงถึงการดูแลความปลอดภัยของที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์พร้อมทั้งตรวจสอบว่าโลเคชั่นนั้น ๆ สามารถเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา
  • ตรวจสอบการบริการ : แม้จะมีระบบดีแค่ไหน แต่เหตุฉุกเฉินอย่างเว็บล่มก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นการตรวจสอบขอบเขตของผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งว่ามีทีมซัพพอร์ตที่เชี่ยวชาญและพร้อมแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วเลยสำคัญเช่นกัน

ครบแล้วกับขอบเขตของการจ้างทำเว็บและข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นผู้จ้างหรือคนพัฒนาเว็บไซต์ก็ตาม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อมูลดี ๆ ทั้งสิ้น รับรองได้เลยว่าถ้าทุกฝ่ายมีความเข้าใจที่ตรงกันการทำเว็บไซต์ก็จะราบรื่นไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

ท้ายสุด สำหรับใครที่กำลังเริ่มทำโปรเจ็คต่างๆ หรือเว็บไซต์ หรือกำลังอยากย้ายโฮสติ้งพอดี อย่าลืมแวะไปดูแพ็กเกจเว็บโฮสติ้งจาก VPS Hispeed กันนะ แพ็คเกจของเรามีหลากหลาย รองรับลูกค้าหลายประเภท แม้จะเป็นมือใหม่ก็ใช้งานได้ไม่ยาก สนใจติดต่อที่อีเมล [email protected] หรือทางเบอร์โทรศัพท์ 093 173 0181, 096 238 7242, 082 018 9138

small_c_popup.png

บริการ Premium VPS และ Cloud Hosting เร็วกว่าด้วยเซิร์ฟเวอร์ในไทย

รับส่วนลด 50%

ท้าให้ลอง VPS ที่ได้รับรีวิวบริการดีเยี่ยมสูงสุดใน Google Review

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful. You can find full details of our Privacy Policy here.