ในโลกการตลาดออนไลน์ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการหารายได้เสริม หนึ่งในวิธีที่หลายคนเริ่มต้นได้ง่าย และแทบไม่ต้องใช้ทุน นั่นคือ “Affiliate Marketing” หรือ การตลาดแบบพันธมิตร ซึ่งหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “แปะลิงก์แล้วรวย” แล้วสงสัยว่า เป็นความจริงหรือไม่? คำตอบคือ “จริง” แต่ก็ไม่ได้ทำแล้วรวยกันทุกคน และหนทางการทำนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ยากเกินไปเช่นเดียวกัน
ในบทความนี้ VPS HiSpeed จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Affiliate Marketing ว่าจริง ๆ แล้วคืออะไร มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับใคร และทำอย่างไรถึงจะทำเงินได้จริง
Affiliate Marketing คืออะไร?
Affiliate Marketing หรือ การตลาดแบบพันธมิตร คือ รูปแบบหนึ่งของการตลาดที่คุณทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยขายสินค้าให้แบรนด์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง เปรียบเหมือนกับคุณเป็นตัวแทนขายสินค้า โดยไม่ได้ลงทุนซื้อสินค้าเพื่อไปขาย เพียงแต่เป็นการบอกต่อ แนะนำ ชักชวนให้คนมาซื้อ แล้วคุณก็ได้ค่าคอมมิชชันตอบแทน
โดยส่วนใหญ่จะมีขั้นตอนง่ายๆ ในการดำเนินการดังนี้:
- คุณสมัครเป็นตัวแทนกับแบรนด์/ บริษัท/ ร้านค้า/ ห้างร้าน ที่มีโปรแกรม Affiliate
- ได้ลิงก์พิเศษมา → แชร์ลิงก์นั้นผ่านช่องทางต่าง ๆ
- เมื่อมีคนคลิกและซื้อ → คุณได้รับค่าคอมมิชชัน
จะเห็นว่าเป็นระบบที่เรียบง่าย แต่หากขาดการวางแผนหรือกลยุทธ์ที่เหมาะสม การแปะลิงก์อย่างเดียวก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีนัก ยิ่งถ้าคุณจะลงทุนยิงแอด โฆษณาเพิ่มยอดขายด้วยนั้น ต้องยิ่งระวัง
รูปแบบการทำ Affiliate Marketing
Affiliate Marketing ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่แบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบหลัก ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสีย และเหมาะกับสไตล์ของผู้ทำที่ต่างกัน เราแนะนำให้คุณค่อยๆ ทำความเข้าใจ และเช็กลิสต์ไปด้วย จะได้ตรวจสอบได้ว่า คุณเหมาะกับรูปแบบใด
1. แบบไม่ผูกมัด (Unattached Affiliate Marketing)
รูปแบบนี้คือการนำลิงก์ Affiliate ไปวางตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยที่คุณไม่ต้องรีวิวหรือแสดงตัวว่าเคยใช้สินค้า
เหมาะกับคนที่อยากเริ่มเร็ว ไม่ต้องสร้างคอนเทนต์ ไม่ต้องโชว์หน้า ตัวอย่างเช่น คอมเม้นท์ตามโพสถามหาสินค้า ป้ายยาตามกลุ่มต่างๆ บนแพลต์ฟอร์มที่นิยม เช่น Facebook Lemon8 X(twitter) เป็นต้น
ข้อดี:
- ไม่ต้องใช้สินค้าเอง
- ทำได้ไว ไม่ต้องถ่ายวิดีโอหรือเขียนรีวิว
ข้อควรระวัง:
- ขาดความน่าเชื่อถือ → คนอาจไม่กล้าคลิกลิงก์ เพื่อซื้อ
- ต้องมีงบยิง Ads ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ไว
- หากไม่มีแผน อาจถูกมองว่าเป็นสแปม
คำแนะนำ: อ่านเงื่อนไข และค่าคอมสินค้าแต่ละประเภท และแต่ละแพลตฟอร์มให้ดี เพื่อที่จะได้วางแผน และเลือกสินค้าที่อยากแปะลิงก์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. Related Affiliate Marketing
คือการทำ การตลาด Affiliate แบบที่มีความเกี่ยวข้องกับเรา อาจจะเป็นการทำคอนเทนต์รีวิวหรือแนะนำสินค้า ซึ่งคุณอาจจะไม่ได้ใช้สินค้านั้นจริง หรือใช้จริง แต่มีการศึกษาและวิเคราะห์อย่างดี มีข้อมูลสนับสนุน
รูปแบบ Related Aff เหมาะกับ:
- Blogger, YouTuber, TikToker ที่ถนัดเล่าเรื่อง
- คนที่ชอบเขียนบทความ ทำวิดีโอ หรือจัดอันดับสินค้า
ข้อดี:
- ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อของ
- เนื้อหาที่ดีสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้
- เขียนบทความ ไม่จำเป็นต้องใส่รูปผู้รีวิวได้ด้วย ซึ่งคุณสามารถทำได้หลากหลายกลุ่มสินค้า
ข้อควรระวัง:
- ถ้าข้อมูลผิด อาจโดนวิจารณ์ได้ง่าย และอาจนำไปสู่การบล็อกบัญชีบน Social media
คำแนะนำ: ควรศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ อาจจะอ้างอิงจากแหล่งนั้นๆ ด้วย
3. แบบมีส่วนร่วม (กับสินค้า) – Involved Affiliate Marketing
รูปแบบการทำ Affiliate ประเภทนี้ เน้นการรีวิวจากประสบการณ์ใช้งานจริง โดยคุณต้องใช้สินค้าเอง แล้วเล่าความรู้สึกและผลลัพธ์ให้คนดูเห็น สามารถทำได้หลายรูปแบบทั้ง เขียนบทความ รีวิว ลงเว็บ กระทู้พันทิป จีบัน Reddit Lemon8 หรือลงโซเชียลมีเดีย หรือสามารถรีวิวเป็นแบบวิดิโอได้เช่นกัน ทั้งแบบเห็นหน้า และไม่เห็นหน้า ตามความถนัดของแต่ละคน
การตลาดแบบ Involved เหมาะกับ:
- Influencer หรือผู้สร้างคอนเทนต์ที่มีผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง
- หรือหากเริ่มต้น คุณก็สามารถสร้างผู้ติดตามได้จากการทำการตลาดในรูปแบบนี้เช่นกัน
- คนที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว
- คนที่มีสไตล์ในการเล่าเรื่องหรือวิดิโอเก่ง และมีเอกลักษณ์
ข้อดี:
- มีความน่าเชื่อถือกว่ารูปแบบอื่นๆ
- สร้างชื่อตัวเอง (content creator/ influencer) ไปพร้อมกับรายได้จากค่าคอมมิชชัน
- วิดิโอหรือบทความ โพสที่สร้างไป อาจกลับมาไวรัลได้อีกหลายครั้ง
ข้อควรระวัง:
- ต้องลงทุนลงแรงมากกว่ารูปแบบอื่น ทั้งในเรื่องเวลาและค่าใช้จ่าย
คำแนะนำ: ถ้าคุณมีผู้ติดตาม หรืออยากเริ่มสร้างตัวตน นี่คือวิธีที่ยั่งยืนที่สุด เพราะคุณไม่ได้แค่ขายของ แต่กำลังสร้างความสัมพันธ์กับคนดู
เมื่อเลือกรูปแบบการทำ Affiliate ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ…
เริ่มต้นทำ Affiliate อย่างไร?
หากคุณสนใจเริ่มต้นทำ Affiliate Marketing สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ดังนี้:
- เลือกแพลตฟอร์มที่คุณถนัด ชอบเข้าไปใช้งาน เช่น YouTube, TikTok, Facebook, IG, Lemon8 หรือเว็บไซต์ส่วนตัว และอื่นๆ
- สมัครเป็น Affiliate กับแบรนด์ที่มีโปรแกรมรองรับ เช่น Shopee, Lazada, หรือ VPS HiSpeed
โปรโมตลิงก์ Affiliate โดย ใช้กลยุทธ์ให้เหมาะกับรูปแบบที่คุณเลือก ทั้ง ยิงแอด การเขียน การทำวิดิโอ และอื่นๆ (สามารถเรียนรู้ได้ตาม Youtube tiktok และอื่นๆ)
VPS HiSpeed เปิดรับ Affiliate
VPS HiSpeed มีโปรแกรม Affiliate ที่เปิดให้คุณสร้างรายได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกรูปแบบการทำไหนก็ตาม เช่น
- แชร์ลิงก์ตามกลุ่ม
- ทำคอนเทนต์จากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว
- รีวิวจากประสบการณ์จริง ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ
พิเศษ!
หากคุณสมัครเป็น Affiliate กับ VPS HiSpeed แล้วแจ้งอีเมลกับแอดมิน คุณจะได้รับ “โค้ดส่วนลด 10%” สำหรับแจกให้ผู้ติดตามของคุณได้ทันที
ลูกค้าได้ส่วนลด → คุณได้ค่าคอม → วินทั้งสองฝ่าย
สรุป
Affiliate Marketing ไม่ใช่แค่เรื่องของการแปะลิงก์ แต่เป็นเรื่องของกลยุทธ์ ความเข้าใจ และการเลือกโมเดลที่เหมาะกับตัวคุณ
- หากคุณอยากเริ่มไว → ลองแบบแปะลิงก์ตามคอมเม้นท์
- ถ้าถนัดเล่าเรื่อง วิเคราะห์ → เหมาะกับเขียนบทความ เน้นความรู้อ้างอิง
- ถ้าพร้อมใช้เอง รีวิวเอง → เลือกแบบสุดท้ายคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
หากมีคำถามเพิ่มเติม หรืออยากได้คำแนะนำเฉพาะสำหรับคุณ สามารถติดต่อทีมงาน VPS HiSpeed ได้ทุกเมื่อ เรายินดีช่วยเหลือคุณทุกขั้นตอน
